หากใครที่เคยเห็นภาพ Untitled no.11 – Mark Rothko เชื่อว่าหลายคนต้องคิดอย่างเดียกวันเลยนั่นก็คือนี่คือภาพศิลปะราคาแพงจริงจริงหรือ ?
สาเหตุที่เชื่อได้เลยว่าหลายคนต้องมีความคิดแบบนี้นั่นก็เพราะภาพ Untitled no.11 – Mark Rothko ดังกล่าวนั้น มันเหมือนกับการทาสีให้ทั่วและแปะอีกสีทับลงไปซะมากกว่า
สำหรับภาพ Untitled no.11 – Mark Rothko นี้ให้นับสีในภาพแล้วอาจจะนับอย่างคร่าวๆได้ 2 สีคือส้มและขาวหรือยังมากกว่า 3 นั่นก็คือส้มเหลืองและพื้นที่สีขาวตรงกลางที่เว้นว่างเปล่าเอาไว้
ภาพนี้เรียกได้ว่าเป็นภาพที่มีรายละเอียดน้อยที่สุดกว่าทุกภาคที่กล่าวมาเสียอีกแต่มันกลายเป็นภาพที่มีมูลค่าสูงได้อย่างไร Mark Rothko ใช้กลวิธีอะไรในการสร้างมูลค่าให้ภาพนี้ก่อนนะเราจะไปหาคำตอบกันค่ะ
Mark Rothko ศิลปินเชื้อสายรัสเซียที่อพยพเข้ามาในอเมริกาได้สร้างผลงานสะเทือนวงการมากมายในประเทศมหาอำนาจนี้เทคนิคของเขาคือการใช้รูปแบบพื้นที่และสีเพื่อเป็นจุดเด่นในผลงานของเขาเขาจะวาดรูปออกมาในสไตล์คล้ายๆเดิม
หากคุณได้ไปถึงผลงานแบบนี้ที่ไหนคุณจะบอกได้เลยว่านี่คือผลงานของ Mark Rothko อย่างแน่นอนและ Mark Rothko ก็มีแนวคิดที่ว่าแทนที่จะเริ่มว่าด้วยการดออิ้งหรือวาดจากเส้น Mark Rothko จะเริ่มวาดภาพของเขาด้วยสี และ Mark Rothko ใช้สีมากกว่า 1 สีเพื่อสร้าง ความพิเศษให้กับภาพด้วย การไล่สีและเล่นแสงของ ภาพ
Mark Rothko ภาพของเขาจึงต้องจ้องมองเพ่งพิจารณากันนานพอดูจึงจะค่อยๆเห็นรายละเอียดของการไล่สีและความกลมกลืนที่เขาได้แอบซ่อนมันอยู่ภายใต้ความเรียบง่ายของภาพนั้นผู้คนที่ได้มองภาพต่างกล่าวว่าภาพที่มีรายละเอียดไม่มากของเขาทำให้เราไม่ต้องใช้ความคิดที่จะมองมันมากนักเหมือนกับได้หลุดเข้าไปในห้วงความคิดของตัวเราเอง
หาให้เราล่องลอยไปในอารมณ์และความรู้สึกคล้ายกับการที่เราได้นั่งสมาธิและมีสติอยู่กับตนเองนั้นเอง พัฒนาการที่เหมาะสมกับภาพศิลปะน้อยสีนี้อยู่ที่ 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับอีกนิดหน่อยเท่านั้นหรือคิดเป็นเงินไทยก็คือกว่า 1,500 ล้านบาทนั่นเอง
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคนจะชื่นชอบศิลปะเหมือนกันแต่ศิลปะนั้นมีมากมายหลายแขนงซึ่งคาดว่าด้วยการวาดลงสีด้วยดินสอก็เป็นอีกศิลปะแขนงหนึ่งหรือการวาดภาพด้วยสีอย่างเดียวโดยที่ไม่จำเป็นที่ต้องลงรายละเอียดของดินสอเลยก็เป็นอีกศิลปะแขนงหนึ่งนั้น
ดังนั้นเราไม่สามารถบอกได้ว่าภาพแบบไหน มีความสวยงามมากกว่ากันเพราะมันอยู่กับความชื่นชอบของคนและบุคคลดังนั้นภาพวาดของ Mark Rothko ถึงแม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดมากนักแต่ก็ได้ใจคนที่ชอบงานด้านศิลปะจึงทำให้ภาพมีมูลค่าสูงขึ้นมานั่นเอง
สนับสนุนโดย. aesexy