ผาชู้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดน่านซึ่งมีพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอ นาน้อย ในปัจจุบันหากใครได้ยินคำว่าผาชู้คงจะคิดว่าเป็นผาที่พูดถึงเรื่องของชายหนุ่มหญิงสาวซึ่งแอบมีชู้กันแต่อันที่จริงแล้วคำว่าผาสุกในที่นี้นั้นไม่ได้พูดถึงของการมีชู้แต่อย่างใดแต่เป็นการพูดถึงเรื่องราวความรักซึ่งเป็นรักสามเศร้าระหว่างเจ้าเมืองกับหญิงสาว 2 คน
ซึ่งเรื่องราวความรักของทั้งสามคนนี้ถูกถ่ายทอดและเล่าต่อกันมากลายเป็นตำนานความรักให้คนจังหวัดน่านได้พูดถึงและระลึกถึงกันอยู่เสมอและหากใครก็ตามที่มาเที่ยวที่ผาชู้แห่งนี้ก็มักจะได้รับคำบอกเล่าเกี่ยวกับตำนานความเชื่อของหน้าผาแห่งนี้
ซึ่งตำนานความรักของทั้ง 3 คนนั้นมีเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อมีเจ้าเมืองคนหนึ่งซึ่งเป็นชายหนุ่มที่มีรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติมีความหล่อเหลาเอาการเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว ซึ่ง เจ้าเมืองคนนี้ชื่อว่า เจ้าจ๋วง และถึงแม้เจ้าจ๋วงนั้นจะเป็นชายหนุ่มรูปงามแต่พระองค์ก็มีภรรยาของพระองค์อยู่แล้วที่ว่าเจ้าจันผาอย่างไรก็ตามในครั้งหนึ่งนั้นในขณะที่เจ้าจ๋วงนั้นได้ออกไปประพาสป่า
เพื่อออกไปล่าสัตว์บังเอิญว่า พระองค์ได้ไปเจอกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอชื่อว่า เอื้อง ซึ่งเอื้อง นั้นเป็นลูกสาวของพรานป่านั่นเองซึ่งพรานป่าคนนี้เป็นคนที่เจ้าจ๋วง ได้มีการตั้งมาเพื่อให้พาไปล่าสัตว์ทำให้ทั้งสองคนทั้ง เอื้อง แป๊ะเจ้าจ๋วง สนิทสนมกันจนในที่สุดก็เกิดการรักใคร่กันจนเกิดการได้เสียกันส่วนทางด้านเจ้าจันผานั้นเมื่อเห็นว่าสามีของตนเองนั้น
ออกมาล่าสัตว์นานเกินไปจะได้ออกมาตามหาจนในที่สุดเราจันผาก็มาพบว่า สามีของเธอก็คือเจ้าจ๋วง ได้อยู่กินกับสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่า เอื้อง ซึ่ง เมื่อเจ้าจันทราเห็นอย่างนั้นเธอจึงได้มีการบอกให้สามีของเธอเลือกระหว่างตัวเธอกับ เอื้อง ว่าเขานั้นจะเลือกใครแต่เนื่องจากว่าเจ้าจ๋วง รักทั้งสองคนไม่สามารถที่จะเลือกใครได้พระองค์จึงได้ตัดสินใจที่จะกระโดดหน้าผาเพื่อฆ่าตัวตายซึ่งก่อนที่จะกระโดดหน้าผาพระองค์ได้มีการอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องของความรักสามเศร้าของพระองค์ในครั้งนี้
ว่าหากเป็นความรักที่เกิดจากความบริสุทธิ์ใจของทั้ง 3 คนแล้วก็ขอให้ตายไปแล้วเกิดมาเป็นต้นไม้อยู่คู่กับโขดหินหลังจากนั้น เจ้าจ๋วงก็ได้กระโดดหน้าผาลงมาส่วนทางด้านเจ้าจันผาเมื่อเห็นว่าสามีกระโดดหน้าผาตายคือจึงได้กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตาม
และทางด้านของสาวเอื้องนั้นไม่เห็นว่าทั้งคู่จะโดดหน้าผาเธอจึงกระโดดหน้าผาตามไปด้วยอีกคนนึงจนทำให้ต่อมานั้นกลายมาเป็นเรื่องของชื่อต้นไม้ที่อยู่กับหน้าผาดังกล่าวโดยมีการพูดถึงต้นไม้ว่าสำหรับต้นสนนั้นก็คือ เจ้าจ๋วง นั่นเองและเจ้าจันทรานั้นเมื่อตายไปแล้วเธอได้กลายเป็นต้นจันผาในขณะที่นางสาวเอื้องนั้นกลายมาเป็นดอกกล้วยไม้
สนับสนุนโดย เว็บพนัน ถูกกฎหมาย ใน ประเทศไทย