ตับเหล็ก
ตับเหล้กนั้นมันก็คือตับคนที่ได้กลายเป็นเหล็กทางภาคกลางและทางภาคเหนือเรียกกว่าตับทองแดงได้มีตำนานเล่ากันว่าเหตุที่ตับของคนเป็นเหล็กได้นั้นเกิดจากสาเหตุดังนี้
1 วิชาอาคมบางประเภคสามารถส่งผลถึงของผู้เรียนวิชาไปถึง7ชั่วโคตรซึ่งบางวิชานั้นก็จะส่งผลผู้ที่ล้ำเรียนสำเร็จมีตับเหล็กด้วยอาถรรพ์ของวิชานั้นๆด้วยเหตุนี้เองจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าบางคนที่ไม่ได้ล้ำเรียนวิชาแต่มีผู้ที่สำเร็จวิชาอาคมนี้ก็อาจจะมีตับเหล็กได้เช่นกันหรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือสืบทอดผ่านทางพันธุกรรมนั่นเอง
2ผู้ที่มีคาถาวิชาอาคมล้ำเรียนวิชาอาคมบางประเภคเพื่อให้ตับของตนเองเป็นเหล็กก็มีตัวอย่าง เช่น วิชาคงกระพันตับเหล็ก อันมีคาถาขึ้นต้นว่า (ตับกูเป็นเหล็กให้ลิ้นกูเป็นทองแดง ให้หนังกูแกร่งยิ่งกว่าหินผา ให้ขนกูแกร่งยิ่งกว่าเพชรกล้า)เป็นต้น
3ผู้ที่กินว่านยาบางชนิดอย่างถูกต้องก็สามารถมีตับเหล็กได้เช่นกัน กล่าวคือว่านต่างที่จะนำมากินนั้นต้องมีการผสมสูตรตามสัดส่วนให้ถูกต้องตามตำราต้องมีการปลุกฤทธิ์ด้วยคาถาก่อนกินทุกครั้งโดยอาศัยเลิกงามยามบังคับและต้องกินว่านภายในสถานที่ที่ถุกต้องจัดเตรียมกับให้ขึ้นพิธีต่างๆมีความเชื่อกันว่าคนที่เกิดมามีตับทองแดงจะฆ่าไม่ตายคงกระพันมหาอุตม์
นอกจากตายเพราะหมดสิ้นอายุไขเองตามธรรมชาติเท่านั้นส่วนการที่จะได้มาครอบครองนั้นจะได้ก็ต่อเมื่อยามเผาศพและเก็บเถ่ากระดูกมาเองนอกจากอยู่ยงคงกระพันแล้วพกติดตัวไว้จะรักษาโรคสุขภาพจะดีแข็งแรงโดยเฉพาะด้านตับนั้นเอง
เดือยไก่ป่า
เชื่อกันว่าเป็นตีนของจ่าฝูงหรือพญาไก่ป่าเถื่อนมีลักษณะยาวยิ่งยาวยิ่งดีดำขับดูน่าเกรงขามด้านอิทธิฤทธิ์เชื่อกันว่านิสัยของไก่ออกหากินด้วยการคุ้ยหากินตื่นเช้าขันเก่งเสียงเราะเหมาะกับอาชีพพ่อค้าแม่ค้านักพูดนักติดต่อธุรกิจวิธีใช้ใช้ควบคู่กับพระคาถาไก่เถื่อนหรือหลวงปู่สุกไก่เถื่อน
โดยมีเรื่องเล่าว่าในขณะจําพรรษาที่วัดราชสิทธารามปรากฏว่าเป็นที่นับถือของชาวบ้านตลอดจนเจ้านายเชื้อพระองค์ต่างพากันไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านเป็นจำนวนมาก
ซึ่งท่านสามารถเรียกไก่เถื่อนจากป่าเป็นฝูงๆมารับการโปรยทานจากท่านเต็มลานวัดทุกๆวันนั่นเองด้วยเหตุนี้ชาวบ้านสมัยนั้นจึงภากันเรียกท่านว่าพระสังฆราชไก่ เถื่อนส่วนพระคาถามีดังนี้ บโม3จบ พุทรัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉานมิฯ (แล้วสวดบนพุทธคุณ 1 จบ) อิติปิโส เวทาสากุ กุสาทาเว ทายะสาตะ ตะสายะทา สาสาทิกุ กุทิสาสา กุตะกุภู ภูกุตะกุ